วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิคเตอร์ กรุงเทพ- เชียงใหม่โอเพ่น (ชิงชนะเลิศ)


















กลับมาที่สนามไทยญี่ปุ่นดินแดงกันอีกครั้งครับ เพื่อชมการแข่งขันในรอบชิงนะเลิศของรายการ วิคเตอร์ กรุงเทพ- เชียงใหม่โอเพ่น 2010 โดยการชิงชนะเลิศในคู่แรกเริ่มกันไปตั้งแต่สิบโมงเช้าที่สนามกีฬาเวสน์ 2 ซึ่งใช้เป็นสนามชิงชนะเลิศสนามเดียว บรรยากาศในสนามก็ตึกคักตั้งแต่เช้าเพราะมารวมตัวกันที่สนามนี้หมดตั้งแต่รุ่นจิ๋วจนถึงรุ่นคุณปู่ พิเศษด้วยการออกร้านเลี้ยงอาหารแก่บรรดานักกีฬาผู้เข้าแข่งขันหลังพิธีการมอบรางวัล ด้วยความอนุเคราะห์จาก ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล และ เถ้าแก่ ประวิทย์ พวงสุพาง ก็เลยปิดฉากการแข่งขันในปีนี้ไปอย่างอิ่มหนำสำราญไปตามๆกันครับ

ส่วนผู้ที่ได้รางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปครองในปีนี้ได้แก่ นายพิสิษฐ์ พูดฉลาด จากบ้านทองหยอด ซึ่งตั้งหน้าตั้งตารอถ้วยนี้มานานเพราะพลาดโอกาสลงในรายการนี้มาหลายปีครับ สำหรับผลการแข่งขันในประเภทอื่นๆคลิกดูที่นี่ตรับ Link
ส่วนภาพในพิธีรับรางวัลเก็บมาฝากให็ดูกันครบทุกรุ่นครับ พบกันใหม่ปีหน้าที่เชียงใหม่ครับ















































วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ชิงแชมป์ประเทศไทย (รอบชิงชนะเลิศ)














มาดูผลการแข่งขันและภาพบรรยากาศในวันชิงชนะเลิศรายการ เอสซีจี แบดมินตันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2553 กันครับ โดยในรอบชิงชนะเลิศที่ MCC Hall เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เริ่มตั้งแต่ตอนบ่ายโมงตรงของวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พร้อมกับการถ่ายทอดสดในคู่แรกคือประเภทชายคู่ ทางช่อง 7สี ใครที่ไม่สะดวกมาชมที่สนามก็คงได้ชมกันทางทีวีกันไปแล้ว ส่วนบรรยากาศในสนามปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมซึ่งมากันล้นหลามชนิดที่ต้องตีตั๋วนั่งกันข้างขอบสนามเลยทีเดียวครับ

ผลการแข่งขันในปีนี้ถ้าไม่นับในประเภทชายเดี่ยวแล้ว รางวัลชนะเลิศเปลี่ยนมือจากปีที่แล้วในทุกประเภทครับ เริ่มกันตั้งแต่

ประเภทชายคู่ซึ่งแข่งเป็นคู่แรก จ.ท.ฐิติพงศ์ ลาโพธิ์ และ ปฏิพัทธ์ ฉลาดแฉลม เอาชนะแชมป์เก่าบดินทร์ อิสสระ และ มณีพงศ์ จงจิตร ไปอย่างสูสีสุดมัน 2-1 เซ็ท 8-21 22-20 21-19 คว้าแชมป์สมัยแรกให้กับตัวเองเป็นผลสำเร็จ

ต่อมาในประเภทหญิงคู่ผสม เป็นของ สุดเขต ประภากมล และ ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ ที่เอาชนะคู่ของ ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ และ กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล ไป 2-0 เซ็ท 21-18 22-20

ตามมาด้วยประเภทหญิงเดี่ยว สลักจิตร พลสนะ ปีนี้ไม่พลาด เอาชนะ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ไป 2-0 เซ็ทเช่นกัน
21-19 21-16 ครองแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 4 ส่วนในประเภทหญิงคู่ กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล ซึ่งพลาดไปในประเภทคู่ผสม ควงคู่กับ ดวงอนงค์ อรุณเกษร เป็นฝ่ายเอาชนะ ปัญญดา มั่นกิจโชคเจริญ และ สาวิตรี อมิตรพ่ายไป 21-13 21-14คว้าแชมป์ไปครองได้สมใจ

และคู่สุดท้ายในประเภทชายเดี่ยว บุญศักดิ์ พลสนะ ซึ่งก็ยังคงรักษาถ้วยแชมป์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการเอาชนะ ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ไปอย่างขาดลอยสองเซ็ทรวด 21-10 21-9 คว้าแชมป์รายการนี้ให้กับตัวเองเป็นสมัยที่ 10 ครับ

ก็ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลทุกคนในวันนี้ และขอให้ทำผลงานได้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกในเอเซี่ยนเกมส์ที่กวางโจวครับ